Last updated: 26 ส.ค. 2562 | 2241 จำนวนผู้เข้าชม |
1.ไม่ใช้ผ้าม่านเนื้อหนา
ผ้าม่านที่มีเนื้อผ้าเบาบางหรือม่านพับ (roman blinds) จะทำให้ห้องดูโปร่งและมีลมผ่านได้ง่าย นอกจากนี้ยังเป็นการเน้นรายละเอียดของเฟอร์นิเจอร์เช่นรายละเอียดของหน้าต่างหรือขอบที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้ลวดลายพื้นๆหรือไม่ก็เป็นลายที่มีโทนสีเบาๆสำหรับลุคร่วมสมัย (contemporary)
2.ลองสีผนังที่เข้มขึ้น
สำหรับห้องที่มีแสงธรรมชาติอยู่แล้วคุณสามารถที่จะใช้สีเข้มเพื่อเอาความโดดเด่นและตัวตนออกมาได้ สีเขียวเข้มเปรียบเสมือนป่าจะสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติที่เห็นผ่านหน้าต่าง – ทำให้ลดรอยเชื่อมระหว่างข้างในกับข้างนอก เพิ่มเติมด้วยสีเหลืองเล็กน้อยสามารถที่จะสร้างความแตกต่างที่มีสไตล์ได้
3.ใช้กระเบื้องมีลาย
หากเลือกกระเบื้องลายที่ใช้จะสามารถขยายพื้นที่ได้ – เช่นแบบเชิงเลขาคณิตเบาๆ จะทำให้นำสายตาให้มองไปสู่ความยาวและความกว้างของพื้นที่ สามารถใช้การออกแบบเดียวกันสำหรับผนังและพื้นในห้องครัวหรือห้องน้ำเพื่อที่จะสร้างความรู้สึกสัดส่วนขึ้น ส่วนกระเบื้องลายคลาสสิกเมื่อมาใช้กับรูปแบบโมเดิร์นก็ทำให้ห้องเกิดลุคแบบ contemporary ได้
4.เล่นเฉดสีผนังสองสี
การใช้เฉดสีเป็นโทนที่แตกต่างกันจะทำให้ห้องที่เตี้ยดูมีมิติที่สูงขึ้น “เพื่อเน้นให้เด่นแบบธรรมชาติ ให้ทาสีด้านล่างด้วยสีที่เข้มก่อนและด้านบนให้ใช้สีที่สว่างขึ้นเพื่อที่จะให้ความรู้สึกว่ามีพื้นที่” โดยเราสามารถเลือกใช้การไล่เฉดสีได้ (ombre effect) โดยใช้เฉดสีแตกต่างเล็กน้อย
5. ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบเรียบๆ
การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นสีไม้อ่อนๆหรือเป็นแบบเรียบๆ จะทำให้ห้องดูไม่แน่นและทำให้ห้องดูสงบ การวางตู้ที่มีลิ้นชักลักษณะที่มีตู้เปิดได้ (dresser) ในห้องครัวหรือบริเวณห้องทานข้าว จะทำให้เก็บของได้ในขณะที่ตั้งของโชว์ได้ด้านบน
6. ใช้กระจกเพิ่ม
กระจกสามารถทำให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้นเพราะว่ามันสะท้อนแสงไปรอบๆพื้นที่ ใช้กระจกขนาดใหญ่เพื่อที่จะทำให้บริเวณที่มืดและบริเวณที่ไกลสุดจากหน้าต่างมีแสงเพิ่ม
7.ใช้วอลล์เปเปอร์
หากต้องการให้ห้องดูกว้างและโปร่ง ลองเลือกใช้ลายไม้และวอลล์เปเปอร์ที่มีชิมเมอร์เพื่อที่จะให้กำแพงมีแสงและมีมิติ หรือเลือกติดวอลล์เปเปอร์ลายโมเดิร์นจะทำให้มีความเด่น “โดยหากใช้ลายวอลล์เปเปอร์เป็นรูปเลขาคณิตและเส้นทแยงมุมที่อสมมาตรจะช่วยให้พื้นที่ใหญ่ทำให้โถงดูโดดเด่นสวยงาม“
13 ก.พ. 2564
24 ส.ค. 2565
15 มี.ค. 2564